วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์  2559

ความรู้ที่ได้รับ

                  วันนี้เริ่มการเรียนด้วยการเช็คชื่อและแจกกระดาษเอสี่คนละหนึ่งแผ่น จากนั้นได้เปิดโทรทัศน์ครูให้นักศึกษาได้วิเคราะห์ว่าการสอนมีอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์

คณิตศาสตร์ที่ได้เจอ
-  การเขียนลำดับ
-  จำนวน
-  การใช้เงินซื้อสินค้า
-  ขนาดและรูปทรง

การสอนแบบ  Project Approach 
-  การที่เด็กได้พูดอย่างเดียวไม่ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้  การเรียนรู้ต้องดำเนินไปตามวิธีการ
-  การสอนแบบโครงการจะเน้นพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน
-  บางสิ่งเด็กควรได้ลงมือปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับการเรียนรู้

                     หลังจากที่อาจารย์กลับมาก็ได้ให้โจทย์โดยให้เขียนตารางความยาว 10 ซม. กว้าง 2 ซม. จากนั้นตีเป็นช่องให้เท่าๆกัน  และอีกตารางให้เพิ่มความกว้างเป็น 3 ซม.  จากนั้นให้นักศึกษาลองระบายในตารางที่ 1 ให้มีสองช่องติดกันและแต่ละช่องต้องไม่ต่อกันแล้วมาดูกันว่าแต่ละคนระบายได้กี่รูป  ส่วนอีกตารางก็ให้ทำแบบเดียวกันซึ่งทั้งสองตารางห้ามระบายเป็นแบบที่ซ้ำกัน
                     การทำกิจกรรมนี้หากจะนำไปให้เด็กอนุบาลทำเด็กต้องมีพื้นฐานการเล่นบล็อคมาก่อนเพื่อให้เด้กได้เห็นภาพและการเขียนตารางต้องมีการเพิ่มเติมให้เกิดการเรียนรู้ รูปแบบใหม่มากขึ้นกว่าเดิม

ทักษะที่ได้รับ
-  ทักษะการต่อยอดความคิด
-  ทักษะการวิเคราะห์

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
-  การนำการเรียนการสอนแบบโครงการไปใช้ในห้องเรียน
-  การสอนเรื่อนรูปทรง การคิดแปลกใหม่ ในเรื่องของบล็อคตาราง

เทคนิคการสอน
-  การใช้สื่อเทคโนโลยี
-  ให้ทำกิจกรรมร่วมกับการสอน

การประเมินผล
ประเมินตนเอง :  วันนี้งงกับการทำตารางเพราะกลัวว่าทำไปแล้วจะผิดเลยไม่กล้าลงมือทำอย่างเต็มที่
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำที่ดีเมื่อทำกิจกรรม



วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่ 5

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์  2559

ความรู้ที่ได้รับ

              วันนี้เริ่มต้นด้วยตารางบนกระดานเป็นตารางสอบถามเวลาตื่นของนักศึกษาตารางมีสามช่อง ช่องที่ 1 คือ ก่อน 07:00  ช่องที่ 2 คือ 07:00  และช่องที่ 3 คือ หลัง 07:00  โดยให้นักศึกษานำชื่อของตนเองไปติดในช่องที่ตรงกับเวลาตื่นของตนเอง ตารางที่เขียนวันนี้สามารถนำไปปรับปรุงยืดหยุ่นให้เข้ากับการทำกิจกรรมการเรียนรู้หน่วยต่างๆได้อีกมากมายและเด็กๆยังได้ความรู้เรื่อง  เวลา  การบวกลบ  การใช้เลขฮินดูอารบิกกำกับลำดับ  การเปรียบเทียบ ทำให้เด็กมีพัฒนาการตามลำดับขั้นตอนแบบขั้นบันไดและการบอกเด็กทุกอย่างจะทำให้เด็กไม่เกิดการเรียนรู้  เช่น

  • เด็ก 3 ขวบ คุณครูควรเขียนให้เด็กดูและให้เด็กฝึกเขียนตาม 
  • เด็ก 4 ขวบ ใช้ภาพ/สัญลักษณ์แทนการบอกจำนวน  
  • เด็ก 5 ขวบ ฝึกเขียนตามรอยปะ
  • เด็ก 6 ขวบ เริ่มการเขียนแบบฟรีแฮนด์
เพลงคณิตศาสตร์

จับปู 
                                         หนึ่ง  สอง  สาม  สี่  ห้า             จับปูม้ามาได้หนึ่งตัว
                                         หก  เจ็ด  แปด  เก้า  สิบ            ปูมันหนีบฉันต้องส่ายหัว
                                         กลัว  ฉันกลัว  ฉันกลัว               ปูหนีบฉันที่หัวแม่มือ

นกกระจิบ
                                  นั่นนกบินมาลิบลิบ             นกกระจิบหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า
                                  อีกฝูงบินล่องลอยมา         หก  เจ็ด  แปด เก้า สิบ ตัว

นับนิ้วมือ
                                       นี่คือนิ้วมือของฉัน                  มือฉันนั้นมีสิบนิ้ว
                                       มือซ้ายฉันมีห้านิ้ว                  มือขวาก็มีห้านิ้ว
                                       นับหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า         นับต่อมาหก เจ็ด แปด เก้า สิบ
                                       นับนิ้วนั้นจงอย่ารีบ                นับหนึ่งถึงสิบจำให้ขึ้นใจ

บวก - ลบ
บ้านฉันมีแก้วน้ำสี่ใบ                   ครูให้อีกสามใบนะเธอ
มารวมกันนับดีดีซิเออ                 ดูซิเธอรวมกันได้เจ็ดใบ
บ้านฉันมีแก้วน้ำเจ็ดใบ                หายไปสามใบนะเธอ
ฉันหาแก้วแล้วไม่เจอ                  ดูซิเออเหลือเพียงสี่ใบ

แม่ไก่ออกไข่
แม่ไก่ออกไข่วันละฟอง               ไข่วันละฟอง
แม่ไก่ของฉันไข่ทุกวัน                 หนึ่งวันได้ไข่หนึ่งฟอง
( นับเพิ่มจำนวนไข่เรื่อยๆที่ละ 1 )
แม่ไก่ของฉันไข่ทุกวัน                สิบวันได้ไข่สิบฟอง

ลูกแมวสิบตัว
ลูกแมวสิบตัวที่ฉันเลี้ยงไว้                    น้องขอให้แบ่งไปหนึ่งตัว
ลูกแมวสิบตัวก็เหลือน้อยลง              นับดูใหม่เหลือลูกแมวเก้าตัว
( ลดจำนวนลงไปตามลำดับจนกระทั่งเหลือหนึ่งตัว )
ลูกแมวหนึ่งตัวก็เหลือน้อยลง       น้องขอให้แบ่งไปหนึ่งตัว
ลูกแมวหนึ่งตัวก็เหลือน้อยลง                 นับดูใหม่ไม่เหลือลูกแมวสักตัว

คำคล้องจองคณิตศาสตร์

กลอนหนึ่ง - สอง
                                         หนึ่ง  สอง           มือตีกลอง  ตะแลีก  แทร๊กแทร๊ก
                                         สาม  สี่                ดูให้ดี
                                         ห้า  หก               ส่องกระจก
                                         เจ็ด  แปด           ถือปืนแฝด
                                         เก้า  สิบ              กินกล้วยดิบ  ปวดท้องร้องโอย โอย

                   เพลงและคำคล้องจองจะช่วยให้เด็กมีความเพลิดเพลิน  เข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ  และดึงดูดความสนใจของเด็กทำให้เขารู้สึกว่าการเรียนไม่ใช่เรื่องที่ยาก

ลักษณะหลักสูตรที่ดี
มีความสมดุลในเรื่องต่อไปนี้
  • เน้นกระบวนการคิดและการพัฒนาความคิดรวบยอด
  • เน้นการเรียนรู้ภาษาและการใช้ภาษาพูดที่สัมพันธ์กับกิจกรรมในชีวิตประจำวันไม่ใช่การท่องจำ
  • แนะนำคำศัพท์ใหม่ๆและสัญลักษณ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • สร้างเสริมให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นและค้นคว้าข้อมูลเพื่อให้ได้คำตอบ
  • ส่งเสริมให้เด็กเกิดการรับรู้สามารถบรรยายและค้นคว้าเพิ่มเติม
  • เน้นให้เด็กเกิดความคิดรวบยอดมีทักษะคณิตศาสตร์ไปพร้อมๆกัน
  • เปิดให้เด็กได้ค้นคว้าสำรวจ  ปฏิบัติ  รู้จักตัดสินใจด้วยตนเอง

ทักษะที่ได้รับ
  • การคิดแบบเป็นconcept
  • การใช้ความคิดรวบยอด
  • การแต่งเพลงให้มีเนื้อหาแปลกจากเดิม
  • การนำเสนองาน คือ การเล่าให้ฟังสรุปให้กระชับเข้าใจง่าย
  • การค้นคว้างานวิจัย
  • การร้องเพลง
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
  • การใช้ตารางเช็คการมาเรียนของเด็กที่สามารถนำไปดัดแปลงเป็นตารางการเรียนรู้หน่วยอื่นๆ
  • การนำเพลงไปประกอบหน่วยการเรียนรู้ แต่งนิทาน และคำคล้องจอง
  • การนำเสนองานให้มีความน่าสนใจ กระชับและเข้าใจง่าย
เทคนิคการสอน
  • นำเสนอภาพให้เข้าใจง่าย เช่น การเขียนตารางและการเปลี่ยนแปลง
  • มีการยกตัวอย่างใกล้ตัวจากสิ่งที่ต้องเจอ
  • ให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมลงมือทำ
  • ให้นักศึกษาได้คิดอย่างเป็นขั้นตอน
การประเมินผล
ประเมินเพื่อน : ในต้นคาบเพื่อนๆให้ความสนใจการเรียนอย่างดีแต่มีช่วงท้ายคาบเรียนคุยกันเสียงดัง
ประเมินตนเอง : มีความเข้าใจเนื้อหาการเรียนของวันนี้และมีบางเพลงร้องไม่ถูกจังหวะ
ประเมินอาจารย์ :  อาจารย์ใส่ใจกับการสอนพยายามทำให้เข้าใจมากที่สุด