วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่ 7

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์  2559


วันนี้ไม่มีการบันทึกการเรียน เนื่องจากไม่ได้เข้าเรียนค่ะ

" การบ้าน "


วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์  2559

ความรู้ที่ได้รับ

                  วันนี้เริ่มการเรียนด้วยการเช็คชื่อและแจกกระดาษเอสี่คนละหนึ่งแผ่น จากนั้นได้เปิดโทรทัศน์ครูให้นักศึกษาได้วิเคราะห์ว่าการสอนมีอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์

คณิตศาสตร์ที่ได้เจอ
-  การเขียนลำดับ
-  จำนวน
-  การใช้เงินซื้อสินค้า
-  ขนาดและรูปทรง

การสอนแบบ  Project Approach 
-  การที่เด็กได้พูดอย่างเดียวไม่ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้  การเรียนรู้ต้องดำเนินไปตามวิธีการ
-  การสอนแบบโครงการจะเน้นพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน
-  บางสิ่งเด็กควรได้ลงมือปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับการเรียนรู้

                     หลังจากที่อาจารย์กลับมาก็ได้ให้โจทย์โดยให้เขียนตารางความยาว 10 ซม. กว้าง 2 ซม. จากนั้นตีเป็นช่องให้เท่าๆกัน  และอีกตารางให้เพิ่มความกว้างเป็น 3 ซม.  จากนั้นให้นักศึกษาลองระบายในตารางที่ 1 ให้มีสองช่องติดกันและแต่ละช่องต้องไม่ต่อกันแล้วมาดูกันว่าแต่ละคนระบายได้กี่รูป  ส่วนอีกตารางก็ให้ทำแบบเดียวกันซึ่งทั้งสองตารางห้ามระบายเป็นแบบที่ซ้ำกัน
                     การทำกิจกรรมนี้หากจะนำไปให้เด็กอนุบาลทำเด็กต้องมีพื้นฐานการเล่นบล็อคมาก่อนเพื่อให้เด้กได้เห็นภาพและการเขียนตารางต้องมีการเพิ่มเติมให้เกิดการเรียนรู้ รูปแบบใหม่มากขึ้นกว่าเดิม

ทักษะที่ได้รับ
-  ทักษะการต่อยอดความคิด
-  ทักษะการวิเคราะห์

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
-  การนำการเรียนการสอนแบบโครงการไปใช้ในห้องเรียน
-  การสอนเรื่อนรูปทรง การคิดแปลกใหม่ ในเรื่องของบล็อคตาราง

เทคนิคการสอน
-  การใช้สื่อเทคโนโลยี
-  ให้ทำกิจกรรมร่วมกับการสอน

การประเมินผล
ประเมินตนเอง :  วันนี้งงกับการทำตารางเพราะกลัวว่าทำไปแล้วจะผิดเลยไม่กล้าลงมือทำอย่างเต็มที่
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำที่ดีเมื่อทำกิจกรรม



วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่ 5

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์  2559

ความรู้ที่ได้รับ

              วันนี้เริ่มต้นด้วยตารางบนกระดานเป็นตารางสอบถามเวลาตื่นของนักศึกษาตารางมีสามช่อง ช่องที่ 1 คือ ก่อน 07:00  ช่องที่ 2 คือ 07:00  และช่องที่ 3 คือ หลัง 07:00  โดยให้นักศึกษานำชื่อของตนเองไปติดในช่องที่ตรงกับเวลาตื่นของตนเอง ตารางที่เขียนวันนี้สามารถนำไปปรับปรุงยืดหยุ่นให้เข้ากับการทำกิจกรรมการเรียนรู้หน่วยต่างๆได้อีกมากมายและเด็กๆยังได้ความรู้เรื่อง  เวลา  การบวกลบ  การใช้เลขฮินดูอารบิกกำกับลำดับ  การเปรียบเทียบ ทำให้เด็กมีพัฒนาการตามลำดับขั้นตอนแบบขั้นบันไดและการบอกเด็กทุกอย่างจะทำให้เด็กไม่เกิดการเรียนรู้  เช่น

  • เด็ก 3 ขวบ คุณครูควรเขียนให้เด็กดูและให้เด็กฝึกเขียนตาม 
  • เด็ก 4 ขวบ ใช้ภาพ/สัญลักษณ์แทนการบอกจำนวน  
  • เด็ก 5 ขวบ ฝึกเขียนตามรอยปะ
  • เด็ก 6 ขวบ เริ่มการเขียนแบบฟรีแฮนด์
เพลงคณิตศาสตร์

จับปู 
                                         หนึ่ง  สอง  สาม  สี่  ห้า             จับปูม้ามาได้หนึ่งตัว
                                         หก  เจ็ด  แปด  เก้า  สิบ            ปูมันหนีบฉันต้องส่ายหัว
                                         กลัว  ฉันกลัว  ฉันกลัว               ปูหนีบฉันที่หัวแม่มือ

นกกระจิบ
                                  นั่นนกบินมาลิบลิบ             นกกระจิบหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า
                                  อีกฝูงบินล่องลอยมา         หก  เจ็ด  แปด เก้า สิบ ตัว

นับนิ้วมือ
                                       นี่คือนิ้วมือของฉัน                  มือฉันนั้นมีสิบนิ้ว
                                       มือซ้ายฉันมีห้านิ้ว                  มือขวาก็มีห้านิ้ว
                                       นับหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า         นับต่อมาหก เจ็ด แปด เก้า สิบ
                                       นับนิ้วนั้นจงอย่ารีบ                นับหนึ่งถึงสิบจำให้ขึ้นใจ

บวก - ลบ
บ้านฉันมีแก้วน้ำสี่ใบ                   ครูให้อีกสามใบนะเธอ
มารวมกันนับดีดีซิเออ                 ดูซิเธอรวมกันได้เจ็ดใบ
บ้านฉันมีแก้วน้ำเจ็ดใบ                หายไปสามใบนะเธอ
ฉันหาแก้วแล้วไม่เจอ                  ดูซิเออเหลือเพียงสี่ใบ

แม่ไก่ออกไข่
แม่ไก่ออกไข่วันละฟอง               ไข่วันละฟอง
แม่ไก่ของฉันไข่ทุกวัน                 หนึ่งวันได้ไข่หนึ่งฟอง
( นับเพิ่มจำนวนไข่เรื่อยๆที่ละ 1 )
แม่ไก่ของฉันไข่ทุกวัน                สิบวันได้ไข่สิบฟอง

ลูกแมวสิบตัว
ลูกแมวสิบตัวที่ฉันเลี้ยงไว้                    น้องขอให้แบ่งไปหนึ่งตัว
ลูกแมวสิบตัวก็เหลือน้อยลง              นับดูใหม่เหลือลูกแมวเก้าตัว
( ลดจำนวนลงไปตามลำดับจนกระทั่งเหลือหนึ่งตัว )
ลูกแมวหนึ่งตัวก็เหลือน้อยลง       น้องขอให้แบ่งไปหนึ่งตัว
ลูกแมวหนึ่งตัวก็เหลือน้อยลง                 นับดูใหม่ไม่เหลือลูกแมวสักตัว

คำคล้องจองคณิตศาสตร์

กลอนหนึ่ง - สอง
                                         หนึ่ง  สอง           มือตีกลอง  ตะแลีก  แทร๊กแทร๊ก
                                         สาม  สี่                ดูให้ดี
                                         ห้า  หก               ส่องกระจก
                                         เจ็ด  แปด           ถือปืนแฝด
                                         เก้า  สิบ              กินกล้วยดิบ  ปวดท้องร้องโอย โอย

                   เพลงและคำคล้องจองจะช่วยให้เด็กมีความเพลิดเพลิน  เข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ  และดึงดูดความสนใจของเด็กทำให้เขารู้สึกว่าการเรียนไม่ใช่เรื่องที่ยาก

ลักษณะหลักสูตรที่ดี
มีความสมดุลในเรื่องต่อไปนี้
  • เน้นกระบวนการคิดและการพัฒนาความคิดรวบยอด
  • เน้นการเรียนรู้ภาษาและการใช้ภาษาพูดที่สัมพันธ์กับกิจกรรมในชีวิตประจำวันไม่ใช่การท่องจำ
  • แนะนำคำศัพท์ใหม่ๆและสัญลักษณ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • สร้างเสริมให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นและค้นคว้าข้อมูลเพื่อให้ได้คำตอบ
  • ส่งเสริมให้เด็กเกิดการรับรู้สามารถบรรยายและค้นคว้าเพิ่มเติม
  • เน้นให้เด็กเกิดความคิดรวบยอดมีทักษะคณิตศาสตร์ไปพร้อมๆกัน
  • เปิดให้เด็กได้ค้นคว้าสำรวจ  ปฏิบัติ  รู้จักตัดสินใจด้วยตนเอง

ทักษะที่ได้รับ
  • การคิดแบบเป็นconcept
  • การใช้ความคิดรวบยอด
  • การแต่งเพลงให้มีเนื้อหาแปลกจากเดิม
  • การนำเสนองาน คือ การเล่าให้ฟังสรุปให้กระชับเข้าใจง่าย
  • การค้นคว้างานวิจัย
  • การร้องเพลง
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
  • การใช้ตารางเช็คการมาเรียนของเด็กที่สามารถนำไปดัดแปลงเป็นตารางการเรียนรู้หน่วยอื่นๆ
  • การนำเพลงไปประกอบหน่วยการเรียนรู้ แต่งนิทาน และคำคล้องจอง
  • การนำเสนองานให้มีความน่าสนใจ กระชับและเข้าใจง่าย
เทคนิคการสอน
  • นำเสนอภาพให้เข้าใจง่าย เช่น การเขียนตารางและการเปลี่ยนแปลง
  • มีการยกตัวอย่างใกล้ตัวจากสิ่งที่ต้องเจอ
  • ให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมลงมือทำ
  • ให้นักศึกษาได้คิดอย่างเป็นขั้นตอน
การประเมินผล
ประเมินเพื่อน : ในต้นคาบเพื่อนๆให้ความสนใจการเรียนอย่างดีแต่มีช่วงท้ายคาบเรียนคุยกันเสียงดัง
ประเมินตนเอง : มีความเข้าใจเนื้อหาการเรียนของวันนี้และมีบางเพลงร้องไม่ถูกจังหวะ
ประเมินอาจารย์ :  อาจารย์ใส่ใจกับการสอนพยายามทำให้เข้าใจมากที่สุด

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4

วันพุธที่ 27 มกราคม 2559


ความรู้ที่ได้รับ

                  วันนี้เริ่มด้วยการแจกกระดาษแผ่นเล็กแล้วเขียนชื่อตนเองลงไป เมื่อเขียนเสร็จให้นำไปติดในตารางที่อาจารย์เขียนให้ ซึ่งตารางแบ่งออกเป็น 2 ช่อง ช่องแรกคือนักเรียนที่มา ช่องที่สองคือคนที่ไม่มา และล่างสุดจะเป็นช่องรวม  โดยช่องที่อาจารย์ได้เขียนไว้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการสอนคณิตศาสตร์ได้มากมาย  สามารถนำไปดัดแปลงให้มีความหลายหลากไม่ซ้ำของเดิมแล้วยังเพิ่มทักษะการคิดให้มีมากขึ้นได้อีกด้วย 
  • เมื่อเด็กนับจำนวนเด็กจะได้ทักษะการนับจำนวน ( การเพิ่มทีละ1 )
  • ใช้ลำดับเป็นตัวกระตุ้นการมาเรียนของเด็ก เพราะเราไม่สามารถไปบอกกับเด็กตรงๆได้ว่ามาสาย
  • การสร้างตารางการมาเรียนทำให้ได้เรียนรู้  การนับ,การแยกกลุ่ม/การรวมกลุ่ม ,จำนวน ,การบวกลบ
  • ใช้เลขฮินดูอารบิกกำกับจำนวน/การนับ/ลำดับที่มาก่อนหลัง
  • ทำให้เด็กมีพื้นฐานของการลบ ในจำนวนมากกว่าหรือน้อยกว่า
  • การตั้งชื่อกลุ่มทำให้เราได้คิดถึงวัตถุประสงค์ว่าเราตั้งเพื่ออะไร
  • การใช้ชื่อจริงจะมีประโยชน์กว่าการใช้ชื่อเล่น เพราะเด็กจะได้เรียนรู้ภาษาและการเขียนชื่อตัวเอง
คำศัพท์ทางคณิตศาสตร์

                           -  ตัวเลข  ขนาด  รูปร่าง  ที่ตั้ง  ค่าของเงิน  ความเร็ว  อุณหภูมิ
                           -  มาตรฐานการจัดในระบบเมตริก  
                                                1. คำศัพท์ที่เด็กควรทราบ
                                                2. ระบบเมตริกที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
                                                3. การวัดเรื่องเวลา
                           -  การจัดประเภทการจับคู่และการตัดสินใจ
                           -  การคาดคะเนปริมาณ / การเปรียบเทียบ

สาระที่ 1  จำนวนและการดำเนินการ
มาตรฐาน ค.ป.1.1  เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชีวิต
จำนวน 
  • การใช้จำนวนบอกปริมาณที่ได้จากการนับ
  • การอ่านตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทย
  • การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิกแสดงจำนวน
  • การเปรียบเทียบจำนวน
  • การเรียงลำดับจำนวน
การรวมและการแยกกลุ่ม
  • ความหมายของการรวม
  • การรวมสิ่งต่างๆสองกลุ่มที่มีผลรวมไม่เกิน 10
  • ความหมายของการแยก
  • การแยกกลุ่มย่อยออกจากกลุ่มใหญ่ที่มีจำนวนไม่เกิน 10
สาระที่ 2  การวัด
มาตรฐาน  ค.ป.2.1  เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดความยาว  น้ำหนัก  ปริมาณ  เงินและเวลา
-  เงิน ( ชนิดและค่าของเงิน เหรียญและธนบัตร)
-  เวลา ( ช่วงเวลาในแต่ละวัน  ชื่อวันในสัปดาห์ )

สาระที่ 3 เรขาคณิต
มาตรฐาน ค.ป.3.1  รู้จักใช้คำในการบอกตำแหน่งทิศทางและระยะทาง
มาตรฐาน ค.ป.3.2  รู้จักจำแนกรูปเรขาคณิต/เข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการกระทำ

เพลงที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์

สวัสดียามเช้า
ตื่นเช้าแปลงฟันล้างหน้า         อาบน้ำแล้วมาแต่งตัว
กินอาหารของดีมีทั่ว         หนูเตรียมตัวจะไปโรงเรียน
สวัสดีคุณแม่คุณพ่อ       ไม่รีรอรีบไปโรงเรียน
หลั่นล้า  หลั่นลา  หลั่นหล่า  หลั่น  ลันลา  หลั่นลา  หลั่นล้า

สวัสดีคุณครู
สวัสดีคุณครูที่รัก    หนูจะตั้งใจอ่านเขียน
ยามเช้าเรามาโรงเรียนๆ       หนูจะพากเพียรขยันเรียนเอย

หนึ่งปีมีสิบสองเดือน
หนึ่งปีนั้นมีสิบสองเดือน      อย่าลืมเลือนจำไว้ให้มั่น
หนึ่งสัปดาห์นั้นมีเจ็ดวัน    อาทิตย์  จันทร์  อังคาร  พุธ  พฤหัส  ศุกร์  เสาร์

เข้าแถว
เข้าแถว  เข้าแถว       อย่าล้ำแนวยืนเรียงกัน
อย่ามัวแชเชือน      เดินตามเพื่อนให้ทัน
ระวังเดินชนกัน      เข้าแถวพลันว่องไว

จัดแถว
สองมือเราชูตรง     แล้วเอาลงมาเสมอกับบ่า
ต่อไปย้ายไปข้างหน้า    แล้วเอาลงมาอยู่ในท่ายืนตรง

ซ้าย - ขวา
ยืนให้ตัวตรงก้มหัวลงตบมือแผละ
แขนซ้ายอยู่ไหนหันตัวไปทางนั้นแหละ

ขวดห้าใบ
ขวดห้าใบวางอยู่บนกำแพง     เราเอาหินปาไปให้มันกลิ้งตกลงมา
คงเหลือขวดกี่ใบวางอยู่บนกำแพง  ลดลงเหลือสี่
(ลดจำนวนขวดลงไปตามลำดับ  จนกระทั่งเหลือขวดหนึ่งใบ)
ไม่มีขวดเหลือเลยวางอยู่บนกำแพง  จะทำอย่างไรกันดี

ทักษะที่ได้รับ
  •  ทักษะการออกแบบตารางการมาเรียนของเด็ก
  • ทักษะการคิดวิเคราะห์
  • ทักษะการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล
  • ทักษะการใช้ประโยชน์จากคณิตศาสตร์
  • ทักษะการร้องเพลง
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
  • การสร้างรูปแบบตารางให้เหมาะสมกับเด็ก สอดแทรกเนื้อหาคณิตศาสตร์ให้เด็กได้เรียนรู้
  • นำการใช้ชีวิตประจำวันมาประยุกต์ใช้กับเรื่องเวลา เงิน ฯล
  • นำเพลงไปประยุกต์ใช้กับสาระการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์
เทคนิคการสอน
             อาจารย์มีเทคนิคการสอนที่ทำให้เข้าใจง่ายสอนทีละลำดับขั้นตอนให้มีความง่ายไปหายาก ทำให้เราได้คิดอย่างเป็นขั้นตอน มีการสอดแทรกคุณธรรมและตัวอย่างที่เห็นภาพจริง

การประเมินผล
ประเมินตนเอง :  ให้ความสนใจการเรียนมีการจดบันทึกย่อเนื้อหาที่สำคัญและร่วมตอบคำถามแสดง                                   ความคิดเห็น
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆให้ความสนใจร่วมกับตอบคำถามและจดบันทึกความรู้ในห้องเรียน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์พยายามให้นักศึกษาทุกคนเข้าใจเนื้อหา ยกตัวอย่างที่เห็นจริงรอบตัว

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3

วันพุธที่ 20 มกราคม  2559

ความรู้ที่ได้รับ

 เริ่มด้วยการแบ่งกระดาษยังไงให้ได้เท่าๆกันสี่ส่วนซึ่งเราเลือกที่จะแบ่งแบบแนวตั้งโดยพับครึ่งและพับครึ่งอีกที  การแบ่งกระดาษไม่จำเป็นต้องแบ่งแค่แนวตั้งอาจจะเป็นแนวนอนก็ได้

-  ให้เด็กได้เลือกวิธีการแบ่งกระดาษด้วยตัวเองไม่มีถูกผิด
-  คำขวัญวันครู
             อนาคตก้าวไกล  ด้วยครูดี  มีคุณภาพ 
-  คุณธรรมของครูต้องเป็นครูที่มีคุณภาพ
-  แบ่งกระดาษตามแนวตั้งออกเป็นสี่ส่วนแล้วเขียนชื่อตัวเองลงไป ออกแบบชื่อให้ลงตัวกับพื้นที่ๆมีอยู่
ซึ่งหากเราเขียนตัวเล็กหรือเขียนชิดเกินไปจะทำให้มองเห็นยากและดูองค์ประกอบรอบข้างไม่ลงตัว
-  การวางเรียนกระดาษควรวางเรียงเป็นแถวตามแนวของกระดาษจะได้ง่ายต่อการนับ

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
  • จำนวนและการดำเนินการ
  • การวัด
  • เรขาคณิต
  • พีชคณิต
  • การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
  • ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
>> เด็กมีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะในพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนขึ้นไปเรียนปฐม <<
เพราะเด็กมีพัฒนาการจึงแสดงพฤติกรรมออกมาโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 และการเล่นเป็นวิธีการเรียนรู้ของเด็ก
  1. มีความคิดเชิงคณิตศาสตร์  เช่น  จำนวนนับ,การแยกกลุ่มการรวมกลุ่ม,รู้จักตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทย
  2. มีความรู้เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับความยาว  น้ำหนัก  ปริมาตร  เงินและเวลา
  3. มีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานทางเรขาคณิต  เช่น  รู้จักรูปทรงเรขาคณิตสองมิติ/สามมิติ,ทิศทาง,ระยะทาง
  4. มีความรู้ ความเข้าใจรูปของรูปที่มีรูปร่าง ขนาด สี ที่สัมพันธ์กันอย่างใดอย่างหนึ่ง
  5. มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลและนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแผนภูมิอย่างง่าย
  6. มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็น
สรุปบทความ
       -  คณิตศาสตร์มีเนื้อหาการรวมกลุ่มและการแยกกลุ่ม
       -  มีการทบทวนการจัดการเรียนรู้/เนื้อหา/เริ่มสอนเนื้อหาใหม่/สรุปสาระสำคัญ/ฝึกทักษะ/ประเมิน/นำไปใช้
       -  ให้เด็กได้ร่วมคิด คำนึงถึงความสนใจและความแตกต่างของเด็ก
       -  สถานที่มีทั้งในและนอกห้องเรียน บนความเชื่อที่ว่าคณิตศาสตร์อยู่ในชีวิตประจำวัน

สรุปวิจัย
       -  ใช้กลุ่มตัวอย่างเด็กอายุ 3-5 ปี   เวลาในการดำเนินการ 8 สัปดาห์
       -  ประเมินทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
       -  ใช้กิจกรรมการสานโดยในสัปดาห์แรกเด็กๆรู้สึกว่าทำยาก  แต่เมื่อสัปดาห์ที่สองเด็กๆรู้สึกว่ามันง่ายขึ้น
       -  เด็กมีทักษะที่เพิ่มขึ้นจากเดิมในระดับพอใช้เป็นระดับที่ดี

สรุปสื่อ/วิดิโอ
       -  กิจกรรมคณิตศาสตร์ใช้ธรรมชาติรอบตัวบูรณาการกับกิจกรรม 6 หลัก
       -  ตัวอย่างกิจกรรมมี ปูมี 8 ขา / ต้นไม้ใกล้ตัว / ใบไม้แสนสวย / มุมคณิต / เกมกระต่ายเก็บของ
       -  สอดแทรกเทคนิคการสอนและดูความต้องการของเด็ก

ทักษะที่ได้รับ
-  ทักษะการพับกระดาษให้มีขนาดเท่าๆกัน
-  ทักษะการคิดและการแก้ไขปัญหา

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
เมื่อเรารู้ถึงสาระการเรียนรู้และมาตรฐานของคณิตศาสตร์เราก็นำความรู้นี้ไปจัดการเรียนการสอน กิจกรรมการเสริมประสบการณ์ที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ของเด็กเพื่อให้เป็นพื้นฐานก่อนขึ้นเรียนชั้นประถม

เทคนิคการสอน
-  ให้นักศึกษาเลือกวิธีการแบ่งกระดาษด้วยตัวเอง  เรียนรู้ไปพร้อมกับการลงมือกระทำ
-  ให้นักศึกษาได้ตีโจทย์ที่ครูให้มาเพื่อเป็นการเรียนรู้ความเข้าใจโจทย์
-  สอดแทรกคุณธรรมการเป็นครูที่ดีมีคุณภาพ

การประเมินผล
ประเมินตัวเอง : มีความสนใจการตอบคำถามและวิเคราะห์โจทย์ที่ครูให้แต่ไม่มั่นใจที่จะทำอย่างเต็มที่เพราะกลัวผิด
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆให้ความสนใจกับการเรียนบางคนยังแบ่งกระดาษผิดทิศทาง 
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์สอดแทรกคุณธรรมทำให้เราอยากเป็นครูที่ดีมีคุณภาพ  สอนเด็กโดยไม่ใช้อารมณ์

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2559

งานวิจัย

ชื่อวิจัย  ผลของการจัดกิจกรรมหลักการฟังนิทานโดยเล่าเรื่องนิทานในรูปแบบการวาดแผนที่แบบเป็นกลุ่มและรายบุคคลที่มีต่อทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
โดย  วิรัตน์  กรองสอาด  คณะศึกษาศาสตร์   มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย

                    ทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เด็กจะเรียนรู้ด้วยความเข้าใจและคิดหาเหตุผลไม่ใช่การเรียนด้วยการท่องจำ เด็กจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนเด็กจึงจะสามารถเรียนในขั้นที่สูงขึ้นไปได้  ดังนั้นคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยจึงเป็นมากกว่าวิชาคิดคำนวณซึ่งทักษะต่างๆจะสอดแทรกในกิจกรรมที่ครูจัดให้เด็กตามตารางกิจกรรมประจำวัน
                    การเล่านิทานให้เด็กฟังของครูนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของเด็กปฐมวัยการทำกิจกรรมหลังฟังนิทานโดยการวาดแผนที่เป็นกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม คือเด็กได้ลงมือกระทำ ได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า เพราะกิจกรรมวาดแผนที่เด็กต้องใช้ทักษะการสังเกตเพื่อเปรียบเทียบและจำแนก  เพื่อบอกตำแหน่งและใช้การคิดอย่างเป็นระบบต่อการเรียงลำดับเหตุการณ์ของเรื่อง นับว่าสอดคล้องกับหลักการจัดประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่ว่า จัดกิจกรรมให้เกิดความสนุกสนานและเกิดความรู้ไปด้วย

                   เริ่มการทดสอบโดยการเล่านิทานที่แฝงไปด้วยพื้นฐานของคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย เช่น รูปทรง ตัวเลข ขนาด  โดยคุณครูได้เปลี่ยนเรื่องเล่าในแต่ละวัน  เมื่อครบวันที่กำหนดในการเล่านิทานคุณครูก็นำแบบทดสอบความรู้ทางคณิตศาสตร์มาให้เด็กๆได้ลองทำ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างคือเด็กอายุ 5-6 ปี โดยชุดแรกของการทดสอบคือการนำรูปภาพ 3 รูปมาเรียงต่อกันซึ่งแต่ละรูปจะมีขนาดที่ต่างกันแล้วครูก็ให้โจทย์นักเรียนโดยบอกว่า " เด็กๆช่วยกากบาททับรูปที่เล็กที่สุดให้ครูหน่อยค่ะ " ชุดต่อมาเป็นการทดสอบขนาด ความยาว สูงต่ำ  โดยคุณครูบอกเด็กๆว่า " ให้เด็กๆช่วยกากบาททับรูปบ้านที่สูงที่สุดให้คุณครูหน่อยค่ะ "  อีกชุดคือการทดสอบความแตกต่างของภาพที่เห็นโดยให้เด็กๆเลือกกากบาทสิ่งที่ต่างออกไปจากเพื่อน

                   งานวิจัยเรื่องนี้นำเอานิทานสิ่งใกล้ตัวเด็กและสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเด็กมาใช้สอนได้อย่างถูกวิธี เช่น เรื่องลูกหมาสิบตัวก็สอดแทรกจำนวนนับทั้งสิบทำให้ง่ายต่อการจดจำและการเรียนรู้ของเด็ก  ทำให้เขาเข้าใจ เข้าถึงพื้นฐานของคณิตศาสตร์ได้ง่ายและครบถ้วน อีกทั้งให้ความเพลิดเพลิน สนุกสนานและเกิดความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย  การใช้นิทานสามารถทดสอบความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดีเพราะเด็กได้เรียนรู้ทั้งรูปทรงเรขาคณิต จำนวนนับ  การใช้เหตุผล  การเรียงลำดับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน  ขนาด ระยะทาง ซึ่งเป็นการสอนพื้นฐานคณิตศาสตร์สอดแทรกได้อย่างง่ายเลยทีเดียว

วิดิโอสื่อการสอน

สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ปฐมวัย

              วิดิโอเป็นวิโอเกี่ยวกับการสอนคณิตศาสตร์แบบใช้สัญลักษณ์ เริ่มจากการนับจำนวน 1-10 อย่างง่าย  จากนั้นก็เริ่มการบวกเลขจากจำนวนน้อยๆและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้สัญลักษณ์รูปส้มหนึ่งผลแทนหนึ่งจำนวน
                     เช่น       ส้มหนึ่งผล + ส้มหนึ่งผล = เท่าไหร่
                      คือ                       1 +  1  =  ?


              การเรียนแบบใช้สัญลักษณ์ทำให้เด็กเข้าใจง่ายและสนใจการเรียนมากขึ้นเพราะทำให้เขาดูแล้วไม่ยากจนเกินความสามารถของเขา อีกทั้งการนำส้มหรือสิ่งอื่นๆมาใช้แทนตัวเลขยังสามารถประยุกต์บูรณาการการเรียนการสอนได้อีกหลายวิชาด้วย